สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านหรือซื้อทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮมบางครั้งอาจจะไปเห็นแบบ การต่อเติมบ้าน หรือมีไอเดียการดัดแปลงบ้านบ้างส่วน เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอย หลายคนอยากจะต่อเติมบ้านซึ่งในโครงการจัดสรรส่วนใหญ่จะถูกออกแบบตัวบ้านให้สอดคล้องกับเนื้อที่ดินที่มี รวมถึงสัดส่วนพื้นที่ใช้สอยต่างๆ และเสาเข็มที่ใช้เป็นขนาดที่รองรับบ้านตามแบบที่ออกแบบไว้ แต่หลายโครงการไม่ได้เผื่อการรับน้ำหนักอื่นๆด้วย เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถส่งผลต่อต้นทุนและราคาบ้านได้
ขณะนี้ การทำการต่อเติมบ้านเพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านอาจถูกพิจารณาว่าผิดกฎหมายตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ที่คิดถึงการปรับแต่งหรือสร้างต่อที่ต้องขออนุญาต อย่างไรก็ตาม ยังมีกรณีที่ไม่ต้องขออนุญาตทั้งหมด 5 เหตุการณ์ที่ยกเว้นได้
5 กรณีที่ไม่ต้องขออนุญาตเมื่อ การต่อเติมบ้าน
1.การ “เพิ่ม” หรือ “ลด” เนื้อที่ของพื้นชั้นใดชั้นหนึ่งรวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร และไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนเสาหรือคาน หากเกิน 5 ตารางเมตร จะต้องขออนุญาต
2.การ “เพิ่ม” หรือ “ลด” เนื้อที่ของหลังคารวมกันไม่เกิน 5 ตารางเมตร และไม่มีการเพิ่มหรือลดจำนวนเสาหรือคาน หากเกิน 5 ตารางเมตร จะต้องขออนุญาต
3.การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาคารด้วยการใช้วัสดุขนาดจำนวนและชนิดเดียวกับของเดิม หากเรามีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเป็นวัสดุที่แตกต่างจากเดิม จะต้องขออนุญาต ต้นไม้ในห้องน้ำ
4.การเปลี่ยนแปลงส่วนใด ๆ ภายในบ้านที่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นโครงสร้างอาคาร ด้วยการใช้วัสดุชนิดเดียวกับของเดิม หรือวัสดุชนิดอื่นที่ไม่ได้เพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างของอาคารเดิมเกิน 10% ของน้ำหนักเดิม ซึ่งหมายความว่า ถ้าเรามีการเปลี่ยนแปลงส่วนใด ๆ ภายในบ้านด้วยวัสดุที่แตกต่างจากเดิม หรือเพิ่มน้ำหนักเกินกว่า 10% ของน้ำหนักเดิม ต้องขออนุญาต
5.การเปลี่ยน, ต่อเติม, เพิ่ม, หรือลดพื้นที่ส่วนใดๆ ในบ้านที่ไม่ใช่ส่วนที่เป็นโครงสร้างอาคาร และไม่เพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างเกิน 10% ของโครงสร้างอาคารเดิม ซึ่งหมายความว่า ถ้าเรามีการเปลี่ยน, ต่อเติม, เพิ่ม, หรือลดพื้นที่ในบ้านด้วยวัสดุที่แตกต่างจากเดิม หรือเพิ่มน้ำหนักเกินกว่า 10% ของน้ำหนักเดิม ต้องขออนุญาต วิลล่า
สรุป 5 กรณีที่ไม่ต้องขออนุญาตต่อเติมบ้าน
1.การ “เพิ่ม” หรือ “ลด” เนื้อที่ของพื้นชั้นใดชั้นหนึ่ง ไม่เกิน 5 ตร.ม.
2.การ “เพิ่ม” หรือ “ลด” เนื้อที่ของหลังคา ไม่เกิน 5 ตร.ม.
3.การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอาคาร ใช้วัสดุ ขนาด จำนวน และชนิดเดียวกับของเดิม
4.การเปลี่ยนแปลงส่วนใด ๆ ภายในบ้าน (ไม่ใช่ส่วนที่เป็นโครงสร้างอาคาร) ใช้วัสดุชนิดเดียวกับของเดิม หรือวัสดุอื่นไม่ได้เพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างของอาคารเดิมเกิน 10% ของน้ำหนักเดิม
5.การเปลี่ยน ต่อเติม เพิ่ม ลด เนื้อที่ส่วนใด ๆ ในบ้าน ไม่เพิ่มน้ำหนักให้แก่โครงสร้างเกิน 10% ของน้ำหนักเดิม
ถ้าพิจารณาจากข้อยกเว้น 5 ข้อแล้ว จะเห็นว่า แบบต่อเติมบ้านส่วนใหญ่ที่เราทำกันอยู่ล้วนต้องขออนุญาต เพราะพื้นที่ที่เราต่อเติมส่วนใหญ่จะเกินกว่า 5 ตารางเมตร รีโนเวทบ้านไม้
ขั้นตอนในการขออนุญาตก่อน การต่อเติมบ้าน
เหตุผลสำคัญที่ภาครัฐกำหนดว่าต้องขออนุญาตต่อเติมก่อนนั้น เป็นเพราะความปลอดภัยทั้งของเจ้าของบ้านที่ต่อเติมเองและเพื่อนบ้านใกล้เคียง แบบต่อเติมบ้านนั้นอาจส่งผลกระทบไม่ทางใดก็ทางหนึ่งไปยังเพื่อนบ้านหรือชุมชนใกล้เคียง ดังนั้น การต่อเติมจึงควรขออนุญาตให้ถูกต้องก็ดีกว่า โดยขั้นตอนในการขออนุญาตมีดังนี้
1.ติดต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่บ้านของเราตั้งอยู่ เช่น ถ้าบ้านของเราอยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ก็ดำเนินเรื่องผ่านสำนักงานเขตกรุงเทพมหานครในพื้นที่ที่บ้านเราตั้งอยู่ ส่วนถ้าเป็นต่างจังหวัด เราอยู่จังหวัดไหน เราก็แจ้งกับองค์การบริหารจัดการส่วนท้องถิ่นของจังหวัดนั้น ๆ
2.ยื่นแบบขออนุญาตก่อสร้างอาคาร, ดัดแปลงอาคาร, รื้อถอนอาคาร
3.เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว ก็ต้องมายื่นขอรับใบอนุญาตดังต่อไปนี้
- ใบแจ้งการออกใบอนุญาตก่อสร้าง, ดัดแปลง, รื้อถอนอาคาร ภายใน 45 วัน นับแต่วันที่ขออนุญาต
- หลังจากนั้น ให้ขอรับใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร, ดัดแปลงอาคารรื้อถอนอาคาร ภายใน 30 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งออกใบอนุญาตไว้
ทั้งนี้ เอกสารและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ สามารถติดต่อสอบถามได้จากสำนักงานเขตท้องถิ่นตามพื้นที่ที่บ้านของเราตั้งอยู่ ซึ่งอาจจะมีความยุ่งยากเล็กน้อย แต่การทำตามคำแนะนำเหล่านี้ จะเป็นการประโยชน์ให้กับตนเองและชุมชนโดยรวม วิลล่าภูเก็ต
หากต่อเติมบ้านโดยไม่ได้ขออนุญาตมีโทษอย่างไร
หากต่อเติมบ้านโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือต่อเติมบ้านผิดเกินแบบแปลนที่ยื่นขอไว้ จะถูกลงโทษด้วยจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ก่อนต่อเติมบ้านการแจ้งเพื่อนบ้านก็สำคัญ
เมื่อได้แบบต่อเติมบ้านมาแล้ว นอกจากขออนุญาตกับทางการแล้ว สิ่งที่ “ลืมไม่ได้” นั่นก็คือ การแจ้งกับเพื่อนบ้าน ใจเขาใจเรา เพื่อความสงบสุขในการอยู่อาศัยร่วมกัน บอกกล่าวเพื่อนบ้านว่าเราจะต่อเติม รื้อถอน ตั้งแต่ช่วงวันไหนถึงวันไหน อาจทำให้เกิดความไม่สะดวก และการเปลี่ยนแปลงแบบต่อเติมบ้านเหล่านี้ อาจจะกระทบกับเพื่อนบ้านอย่างไรบ้าง เพราะหากเราต่อเติม รื้อถอน แล้วส่งผลกระทบกับเพื่อนบ้าน แม้จะดำเนินการขออนุญาตทางการอย่างถูกต้อง เราก็อาจจะถูกฟ้องร้องได้เช่นกัน